วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555

“ไพบูลย์ อุปัติศฤงค์” ลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.ภูเก็ต อีกสมัย



ไพบูลย์ อุปัติศฤงค์อดีตนายก อบจ.ภูเก็ต สมัครลงชิงเก้าอี้อีกสมัย ท่ามกลางกองเชียร์ล้นหลาม ประกาศเดินหน้า ทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองน่าอยู่คู่คุณธรรม

               วันที่ 5 มี.ค.55 ที่บริเวณศาลาประชาคม จ.ภูเก็ต ซึ่งทาง กกต.กำหนดให้เป็นสถานที่รับสมัครเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 5-9 มีนาคม 2555 วันนี้ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดรับสมัคร บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก เนื่องจากมีผู้สนับสนุนได้นำแผ่นป้ายข้อความ และดอกไม้มาให้กำลังใจ นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ อดีตนายก อบจ.ภูเก็ต เป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะเป็นผู้สมัครเพียงรายเดียว และมาถึงสถานที่รับสมัครก่อนเวลาเปิดรับสมัคร 08.30 น.และไม่มีผู้มาลงเวลาเพิ่ม จึงทำให้ นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ จึงได้หมายเลข 1 เป็นหมายเลขประจำตัวผู้รับสมัคร
            นายไพบูลย์ กล่าวว่า ยังคงเดินหน้าทำภูเก็ตให้เป็นเมืองน่าอยู่คู่คุณธรรม โดยนำหลักศาสนามาใช้ในการบริหารงาน ให้เกิดความโปร่งใส และตรวจสอบได้ รวมทั้งการดึงทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมในทำงานอย่างแท้จริงเหมือนกับใน สมัยที่ผ่านมา จนทำให้ได้รับรางวัลจากหน่วยงานต่างๆ มากมาย เช่น รางวัลการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน จากสถาบันพระปกเกล้า รางวัลนวัตกรรมแห่งการให้บริการสาธารณะ จากสำนักนายกรัฐมนตรี รางวัลท้องถิ่นดีเด่นในการส่งเสริมวัฒนธรรม จากกระทรวงวัฒนธรรม เป็นต้น
      
       อย่างไรก็ตาม หากได้เข้ามาดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ภูเก็ต อีกสมัย สิ่งที่จะดำเนินการ คือ การสร้างสนามกีฬามาตรฐานแห่งใหม่ในพื้นที่ อ.ถลาง ที่อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ เป็นสนามฟุตบอล เนื่องจากปัจจุบันสนามกีฬาที่มีอยู่ไม่เพียงพอรองรับความต้องการ และบริเวณอ่างเก็บน้ำบางวาด รวมถึงการสร้างสนามกีฬาในร่ม หรือสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ที่อาคารลักกี้คอมเพล็กซ์ สะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต เพื่อให้เป็นสถานที่ในการออกกำลังกายของประชาชนทุกเพศทุกวัย
           นอกจากนี้ ก็ยังจะส่งเสริมให้มีพื้นที่สวนสาธารณะเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลัง กายในพื้นที่ต่างๆ ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้การส่งเสริมเรื่องของ 1 ตำบล 1 แอโรบิก ก็จะได้ขยายในส่วนของการออกกำลังอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น
      
       ในเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสาธารณสุขนั้น จะเน้นการให้บริการเชิงรุกเพิ่มขึ้น โดยจัดให้มีรถบริการฉุกเฉินร่วมกับทางท้องถิ่นต่างๆ และจัดแพทย์พยาบาลลงไปดูแลผู้ป่วยถึงบ้าน ส่วนของโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ก็จะมีการเพิ่มแพทย์เฉพาะทางให้มากขึ้น ทั้งหู คอ จมูก และอื่นๆ โดยตั้งงบประมาณไว้ 200 ล้านบาท ในการพัฒนาบุคลากร เพราะปัจจุบันมีประชาชนมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับสัญญาการจ้างจะหมดลงในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ตนจะต้องลาออกมาก่อน เพื่อให้สามารถเข้าไปสานต่องานดังกล่าวได้ทันท่วงที เพราะได้มีการอนุญาตการต่อสัญญาว่าจ้างครั้งใหม่จากเดิมกำหนดเพียง 1 ปี ออกไปเป็น 5 ปี
      
       ส่วนเรื่องของการท่องเที่ยวนั้น ก็ยังคงเน้นการทำงานร่วมกับทางจังหวัดภูเก็ต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานภูเก็ตและสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ตในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและเปิดตลาด ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดีสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว และมีสายการบินที่เปิดบินตรงเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต

ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: